Itchnakorn Pheungkiatrasmee Instagram – สารคดีปิดอัลบั้ม ‘เพื่อชีวิตกู’ ที่ชุมชนคลองเตย จากวงไททศมิตร การเดินทางในถนนสายดนตรีของวงไททศมิตรกับสองอัลบั้ม ‘ไททศมิตร’ และ ‘เพื่อชีวิตกู’ ตลอดระยะเวลา 5 ปีนี้ ได้มีโอกาสพบเจอผู้คนที่หลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม ต่างฐานะ ซึ่งจุดเชื่อมเดียวของพวกเขาคือการมาฟังวงดนตรี 1 วง ที่เรียกตัวเองว่าเพื่อชีวิต แต่ในความจริงแล้วองค์ประกอบของคำว่าเพื่อชีวิตของเรานั้นก็ไม่ได้สมบูรณ์ เพราะเราได้รับโอกาส เรามีชีวิตที่ดี เรามีการศึกษา เราไม่เคยยากจน จนต้องกัดก้อนเกลือกิน ไม่มีญาติพี่น้องเราที่ต้องเป็นโคโยตี้ เราไม่เคยใส่เสื้อกั้ก หรือโดนดูถูกเหยียดหยามเหมือนในเพลงบังขายถั่ว เราเพียงแค่รู้สึกเห็นอกเห็นใจ และหาทางที่จะเข้าใจ หรือมากกว่านั้นคือบอกต่อเพื่อให้หลายคนเข้าใจ เราสะท้อนชีวิตของคนเหล่านั้นผ่านบทเพลงของเรามาตลอด 5 ปี และมันพาเรามาไกลมากจากจุดเริ่มต้น เราได้เล่นดนตรีทั่วทั้งประเทศ ทั้งเวทีเล็กไปจนถึงเวทีใหญ่ แต่เรายังไม่เคยมีโอกาสเล่นให้คนกลุ่มหนึ่งได้ฟัง คนกลุ่มที่เราอยากจะเล่นให้เขาฟังที่สุด คนที่เรานำชีวิตของเขามาสะท้อนจนมันนำพาความสำเร็จมาให้เรา คนที่อาจจะไม่มีเงินซื้อตั๋วคอนเสิร์ตแพง ๆ หรือไม่มีเวลามาดูเราเล่นเลยด้วยซ้ำ กลุ่มคนที่มีพระคุณกับเรา กลุ่มคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เรายังมุ่งมั่นทำในสิ่งนี้อยู่อย่างไม่ลดละ กลุ่มคนที่สมควรได้ฟังและได้รับรู้ว่าชีวิตของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้วงดนตรีเพื่อชีวิตหลงยุควงหนึ่ง ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เขาคือแรงบันดาลใจของเรา คือ ผู้มีพระคุณของเรา และเราแค่อยากเล่นดนตรีให้เขาฟัง อย่างน้อยมันทำให้เขามีความสุขกับงานเล็ก ๆ นี้ก็ยังดี เพราะว่าชุมชนคลองเตยเป็นภาพสะท้อนความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนที่สุด มันเป็นเหมือนสัญลักษณ์บางอย่างที่ทำให้เราทุกคนตระหนักว่าความเหลื่อมล้ำนั้น หน้าตามันเป็นเช่นไร ผมเลยอยากใช้คอนเสิร์ตเป็นตัวกลางเพื่อเอากิจกรรมเข้าไปให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน การสร้างรายได้ การร่วมมือกันกับชุมชน โดยการลงไปคุยกับเด็กในชุมชนด้วยตัวเอง ในการดีลพวกเขามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมงานในอนาคต ให้เขามาฝึกงาน ให้โอกาสเขาได้มีงานทำ เพื่อให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสิ่งดี ๆ ได้เช่นกัน เพื่อหวังว่าวันหนึ่ง คนเหล่านี้แหละ จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น แทนที่เราจะรับบทบาทนั้นไว้เอง เราส่งมอบมันให้เขาน่าจะเป็นอะไรที่จับต้องได้ง่ายกว่า รวมไปถึงการดึงบุคคลภายนอกให้เข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรม สร้างความเข้าใจใหม่ และเด็ก ๆ เองก็ได้โอกาสในการเรียน การอยู่กับคนในสังคมอื่นอย่างหลากหลายด้วย